มาตรฐานน้ำแข็ง GMP

"น้ำแข็งและความสะอาด" เป็นสิ่งที่ต้องคู่กันเสมอ

     ในอดีต40-50ปีที่แล้ว โรงน้ำแข็งส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ริมคลองหรือแม่น้ำ เพื่อที่จะสะดวกในการนำน้ำมาใช้

แต่ในปัจจุบันสิ่งปนเปื้อนในแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีมากเหลือเกิน และเสี่ยงต่อเชื้อโรค

โรงน้ำแข็งสมัยใหม่จึงปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโดยการนำน้ำสะอาดจากแหล่งอื่น เช่น น้ำประปา และน้ำบาดาล

ผ่านเครื่องกรองน้ำระบบRO ที่ทันสมัย รวมถึงปรับปรุงเครื่องจักรตลอดจนระบบความสะอาดให้ดีขึ้น

      แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าน้ำแข็งที่ไหนสะอาดหรือไม่สะอาด?

ก็คือระบบรับรองมาตรฐาน GMP ยังไงละ

      แล้ว GMP คืออะไร? มาจากไหน?

GMP ย่อมาจาก Good Manufacturing Practice คือ
หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตเพื่อให้สินค้าอาหารที่ผลิตมีคุณภาพและความปลอดภัยสม่ำเสมอ

จี.เอ็ม.พี. กำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ.2514 โดยหน่วยงานมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือ โคเด็กซ์ ( CODEX)
เป็นมาตรการบังคับใช้เป็นกฎหมายในสหรัฐอเมริกาและระหว่างประเทศ

และ ปี พ.ศ.2529 ประเทศไทยได้มีการนำเข้ามาใช้ในลักษณะของความสมัครใจ โรงงานที่มีGMPในยุคนั้นคือโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งออกเท่านั้น

จนกระทั้งGMP ถูกนำมาเป็นกฎหมาย 2 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 193) พ.ศ.2543 และ (ฉบับที่ 239) พ.ศ.2544
เพื่อให้เป็นไปตามมารตรฐานสากล

โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) กองควบคุมอาหาร
ได้มีมาตรการให้การรับรองระบบ GMP (Certificate GMP) 

    มีข้อกำหนด GMP น้ำแข็งบริโภค มี 11 ข้อกำหนด ดังนี้
1. สถานที่ตั้งและอาคารผลิต
2. เครื่องมือเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต
3. แหล่งน้ำ
4. การปรับคุณภาพน้ำ
5. ภาชนะบรรจุ
6. สารทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
7. การบรรจุ
8. การควบคุมคุณภาพมาตรฐาน
9. การสุขาภิบาล
10. บุคลากรและสุขลักษณะผู้ปฏิบัติงาน
11. บันทึกและรายงาน
GMP จำเป็นจะต้องตรวจประเมินใหม่ทุกๆ 3 ปี

การจะได้มาซึ่งมาตรฐานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีการดูแลหรือพัฒนาตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
และ GMP ยังเป็นมาตรฐานเบื้องต้นในการพัฒนาไปสู่ ระบบประกันคุณภาพอื่น ๆ ต่อไป เช่น
HACCP (Hazards Analysis and Critical Control Points) และ ISO อีกด้วย

โรงงานน้ำแข็งที่ผ่านมาตรฐานGMP จึงมั่นใจได้ว่า สะอาด ในทุกขั้นตอนการผลิต


ใบ GMP Certificate for the scope of manufacturing ICE. ล่าสุดที่โรงน้ำแข็งเราได้รับ